วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สอบเสร็จแล้ว...

เฮ้อ....ในที่สุดก็ได้พักผ่อนซะที

เหนื่อยกับการสอบมาทั้งอาทิตย์ อย่างว่าแหละ ชีวิตต้องสู้ ฉลามสู้ชีวิต 555++

วันนี้อากาศแจ่มใสเหมาะแก่การนอนจริงๆ แต่นึกได้เลยลุกขึ้นมาอัพบล็อกซะหน่อย

เดี๋ยวฝุ่นจะเกาะซะชิบ วันนี้ก้อนึกๆอยู่นะเนี่ยว่าจะเที่ยวไหนดี

วันเสาร์อันแสนสบาย แต่นึกๆแล้ว นอนอยู่กับบ้านดีกว่า

วันนี้อยากกินไอศครีมแต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครให้กินเลย ชิชิ จะฟ้องนายยก

วันนี้ก้อมาเขียนแค่นี้ละกัน พอแหละ เดี๋ยวเขาหาว่าบ้า...

ปล.รักทุกคนค่ะ

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

**กินผักผลไม้ป้องกันโรค**

กินผักผลไม้ป้องกันโรค
การกินผักผลไม้เป็นสิ่งที่ดี และทราบหรือไม่ว่าสามารถป้องกันโรคได้ วันนี้มีเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ....

1. กินคะน้าตาไม่เป็นต้อ
คะน้าเป็นผักหาง่ายในท้องตลาด เป็นผักที่อุดมไปด้วย วิตามินซี วิตามินอี แคโรทีนอยด์ และโฟเลต นอกจากนี้ยังมีสาร "ลูทีน" ซึ่งเป็นสารสำคัญที่พบในเลนส์ตา จากงานวิจัยพบว่า การกินอาหารหรือพืชผักที่มีสารลูทีนสูง เช่น คะน้า จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจกลงได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่กิน นอกจากนี้การกินคะน้าเป็นประจำ ยังช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร ปอด และเต้านมอีกด้วย
2. กินเห็ดป้องกันกระดูกพรุน
คนส่วนใหญ่ทราบดีว่าการขาดวิตามินดีและแคลเซียม จะทำให้กระดูกไม่แข็งแรง ยิ่งอยู่ในวัยสูงอายุก็อาจเพิ่มอัตราความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุนได้ ล่าสุดนักวิจัยพบว่า การกินอาหารที่มีธาตุทองแดงเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ และการขาดธาตุทองแดงแม้เพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้อาการกระดูกพรุนแย่ลงไปอีก ดังนั้นการกินอาหารที่มีธาตุทองแดงมาก เช่น เห็ด ปู กุ้งมังกร หอยนางรม ลูกพรุน ปลาซาร์ดีน จึงช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน และทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น
3. กินแอปเปิลให้ปอดแข็งแรง
ไม่ว่าจะกินแอปเปิลเขียวหรือแดงก็ดีต่อปอดเป็นที่สุด เพราะแอปเปิลมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ "เคอร์ซีทิน" สารตัวนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดอย่างได้ผล นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองอีกด้วย วิธีการกินแอปเปิลให้ได้สารเคอร์ซีทีนมากที่สุดก็คือ ต้องกินผลสดทั้งเปลือก ซึ่งจะให้ได้รับสาร "เพกทิน" จากเปลือกแอปเปิลเพิ่มขึ้นด้วย สารเพกทินมีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย ส่วนคุณสาว ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนักการกินแอปเปิลจะช่วยให้อิ่มนาน ไม่รู้สึกหิว เพราะในแอปเปิลมีคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันทีถึง 75 เปอร์เซ็นต์ การกินแอปเปิลสด ได้ประโยชน์มากมาย
4. กินองุ่นทั้งเมล็ดช่วยชะลอความแก่
ใครที่อยากเป็นหนุ่มเป็นสาวสองพันปี เรามีวิธีการชะลอความชราด้วยการกินผลไม้ที่หาง่าย ๆ เช่น องุ่น และต้องเคี้ยวเมล็ดองุ่นด้วย เพราะในเมล็ดองุ่นมีสาร "โอพีซี" (oligomeric proanthocyanidin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่า และสูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า องุ่นจึงเป็นผลไม้ที่ช่วยรักษาสุขภาพจากภายใน ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวพรรณให้ดูอ่อนกว่าวัย ช่วยชะลอความชรา และเป็นสารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคที่เกี่ยวกับจอประสาทตาอีกด้วย
รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากมีสุขภาพดีก็หันมาทานผักผลไม้กันเยอะ ๆ ดีกว่า.

ที่มา http://www.fwdder.com/topic/98221

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นอน นอน เถอะนอน อยากให้เธอง่วงนอน

นอน นอน เถอะนอน อยากให้เธอง่วงนอน
มหันตภัยของการนอนดึก การอดหลับอดนอนคงเป็นเรื่องธรรมดาของเหล่ามนุษย์เงินเดือนไปเสียแล้ว! ไม่ว่าจะเกิดมาจากสาเหตุใดก็ตามเถอะ แต่จงอย่าให้มันกลายเป็นความเคยชิน เพราะผลกระทบของการนอนดึกนั้นมันร้ายแรงกว่าที่คิดจริงๆ ถ้าคุณสาวๆ ยังไม่เชื่อลองมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อร่างกายของเหล่านักนอนเช้าตัวยงกัน
ระบบการย่อยอาหาร การอดหลับอดนอน ส่งผลให้ท้องอืด ท้องเฟ้อง่าย อาหารย่อยไม่ดี ทำให้อุจจาระหยาบ ต่างจากการนอนตรงตามเวลา นอนแต่หัวค่ำ อุจจาระที่ถ่ายออกมาก็จะสวย ไม่มีเศษอาหารติดอยู่ และไม่เหนียว หรือแข็งหยาบจนเกินไป
ทั้งนี้เกิดจากการที่ร่างกายของเรานั้นย่อยอาหารได้ไม่ดีและไม่หมด เพราะระบบการย่อยมันอ่อนล้าจากการที่นอนไม่เป็นเวลา
แนวทางแก้ไข จำเป็นต้องนอนดึกจริงๆ ให้หลีกเลี่ยงหรือลดอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ หรืออาหารเหนียวๆ เพื่อมิให้ลำไส้ทำงานหนัก เพราะหลังจากที่เราหลับไปแล้ว ถ้าคุณยัดอาหารหนักลงกระเพาะ ลำไส้ก็ยังคงต้องทำงานอยู่ มิได้พักผ่อน และทำให้เกิดปัญหา
แล้วถ้าหากตื่นนอนขึ้นมาแล้ว มีความรู้สึกอ่อนเพลีย ก็ควรที่จะรับประทานไข่ นม หรือน้ำผลไม้แทนอาหารหนักจำพวกเนื้อสัตว์ ก็จะสามารถรอดจากอาการท้องผูกเป็นประจำได้ แต่ทางที่ดีอย่านอนดึกเลย หรือจำเป็นจริงๆ ก็ควรออกกำลังหน้าท้องเข้าไว้ เพื่อสร้างกำลังให้ท้องสามารถรีดอุจจาระออกมาได้เร็ว
ระบบปัสสาวะลองสังเกตกันไหมว่า ถ้าเรานอนแต่หัวค่ำ (ประมาณ 3-4 ทุ่ม) พอรุ่งเช้าเราตื่นขึ้นมาก็จะปัสสาวะเพียงครั้งเดียวจบ แต่ถ้านอนดึก กลางดึกก็จะต้องลุกเข้าห้องน้ำอยู่บ่อยๆ
เพราะร่างกายใช้งานเกินลิมิตไปแล้ว กล้ามเนื้อข้างในเลยพยายามบีบคั้นเอาพลังงานออกมาใช้ จึงต้องใช้น้ำมาก ผลก็คือจะปัสสาวะบ่อย และนั่นเองที่ทำให้เกลือแร่ที่อยู่ในร่างกายจะถูกขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะด้วย
แนวทางแก้ไข ให้รับประทานแคลเซียมเม็ดเพื่อป้องกันเลือดจาง แต่ควรทานวันละ 1 เม็ดเท่านั้น เพราะทานมากไปจะเกิดภาวะแคลเซียมพอก หรืออาการที่กระดูกงอกทับเส้นประสาท
แล้วต่อไปหากจำเป็นต้องนอนดึก ควรจะดื่มน้ำมากๆ และควรเติมเกลือลงไปในน้ำ เพื่อช่วยระบบเลือดและความดันโลหิตด้วย ส่วนคนที่ใช้เครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ ควรเลิกซะ เพราะพอเราอยู่ดึกมากๆ และกลั้นปัสสาวะ มันก็จะซึมเข้าไปในเลือด ทำให้น้ำเหลืองเสีย และจะไปประทุที่ขาหนีบ
ระบบเหงื่อสำหรับคนที่มีความเข้าใจว่า ถ้าไม่มีเหงื่ออกเสียเลยจะมีสุขภาพที่ดีนั้น เป็นความเข้าใจที่ผิดถนัด เพราะถ้าเหงื่อไม่ออก ความร้อนภายในร่างกายจะระบายไม่ได้ รวมไปถึงของเสียต่างๆ ที่จะถูกระบายพร้อมเหงื่อ ก็จะไม่ถูกระบาย ก็จะทำให้อึดอัด รวมไปถึงโรคผิวหนัง อาทิ สิว ฝ้า ก็จะถามหาเอาง่ายๆ
คนที่นอนดึกดังที่ทราบกันว่าจะไม่ค่อยมีเหงื่อออก จึงมักจะเผชิญกับปัญหาของเสียตกในอยู่เสมอ และแน่นอนว่าสิว ฝ้า ก็จะตามมาเป็นปัญหาต่อไป อีกทั้งถ้าเหงื่อไม่ออก การระบายน้ำก็จะตกไปเป็นภาระของไต เพื่อขับออกมาเป็นปัสสาวะ ไตเลยต้องทำงานหนัก แถมยังทำให้ปัสสาวะถี่อีกต่างหาก
แนวทางแก้ไข ก็คงไม่ต่างจากระบบอื่นๆ คือการดื่มน้ำเข้าไปเยอะๆ และที่สำคัญควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเรียกเหงื่อให้ออกมา
12 สุขลักษณะการนอนที่ดี
1. จัดห้องนอนให้เหมาะแก่การนอนหลับ อาทิ ไม่ร้อนหรือหนาวเย็นจนเกินไป ไม่ควรมีเสียงดังอึกทึก ควรมีบรรยากาศเงียบสงบ หรืออาจมีเสียงเพลงเพราะๆ คลอเบาๆ
2. ใช้ห้องนอนสำหรับการนอนเท่านั้น งดเว้นกิจกรรมอื่นในห้องนอน เช่น ทานอาหาร หรือเล่นเกมต่างๆ
3. การดื่มนมอุ่นๆ สักแก้ว หรือกล้วยสักผลช่วยให้หลับได้ดีขึ้น
4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่กระตุ้นสมองทุกชนิด เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ในตอนบ่าย ตอนเย็น หรือช่วงก่อนนอน
5. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ทุกชนิด เพราะจะมีสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อสมองทำให้นอนไม่หลับ แม้ว่าเราจะเคยได้ยินมาว่า แอลกอฮอล์ช่วยให้หลับง่าย แต่ถ้าดื่มอย่างต่อเนื่องก็เป็นผลร้ายต่อการนอนเหมือนกัน ดังนั้นไม่ดื่มดีที่สุด
6. การออกกำลังกายในช่วงเช้าอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ วันจะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น ไม่ควรออกกำลังกายหนักในช่วงเย็นหรือก่อนนอน
7. พยายามตื่นนอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน รวมไปถึงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดพิเศษอื่นๆ ด้วย เพราะวิธีนี้จะทำให้วงจรการหลับ-ตื่นของเราทำงานได้ดี
8. หลีกเลี่ยงการดูภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ หรือเล่มเกมคอมพิวเตอร์ ที่มีความตื่นเต้นในช่วงก่อนเข้านอน
9. พยายามไม่ดื่มน้ำมากในตอนเย็น เพื่อกลางดึกจะได้ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ
10. คนที่โกรธหรือหงุดหงิดเพราะตัวเองนอนไม่หลับนั้น ไม่ควรที่จะข่มตาบังคับให้หลับอีกต่อไป ควรลุกขึ้นออกจากห้องนอนมาหากิจกรรมอย่างอื่นทำ อาทิ อ่านหนังสือธรรมะสักเล่ม (ไม่ควรทำอะไรที่ตาสว่าง) เมื่อรู้สึกง่วงจึงกลับไปนอน
11. ถ้ารู้สึกว่าตัวเองตื่นมากลางดึกแล้วคอยดูเวลาอยู่เรื่อยๆ ก็ให้เก็บนาฬิกานั้นไปไว้ที่อื่น
12. ไม่ควรทานยานอนหลับ เพราะอาจส่งผลไปถึงการเป็นโรคสมองเสื่อม
7 เคล็ดลับสำหรับห้องนอนชั้นเยี่ยม
1. ห้องนอนควรอยู่ในที่อากาศโปร่ง มีลมเข้าออก และถ้ามีอากาศที่เย็นสบายอยู่แล้วในช่วงกลางคืน ก็ไม่จำเป็นต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้สิ้นเปลือง
2. ควรเปิดหน้าต่างห้องนอนทุกวันเพื่อให้อากาศถ่ายเท ไม่อับชื้น โดยเฉพาะในหน้าฝน
3. ผึ่งผ้าคลุมเตียงทุกเช้า รวมไปถึงชุดเครื่องนอนต่างๆ เพื่อไล่กลิ่นตัว เหงื่อ และไรฝุ่นที่ติดอยู่ให้สลายไป
4. ลดเครื่องใช้ไฟฟ้าให้น้อยชิ้น และตั้งเตียงให้ห่างจากปลั๊กไฟ เพื่อเป็นการลดสัมผัสกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ที่อาจทำให้คุณเป็นโรคอัลไซเมอร์หรือโรคมะเร็ง
5. ควรเลือกเครื่องนอนที่ทำจากไม้ธรรมชาติและปราศจากสารพิษ
6. เวลาเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ให้นำที่นอนออกไปผึ่งแดดสักครู่ อาจจะดูดฝุ่น หรือฉีดพ่นด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำมันยูคาลิปตัสเพื่อไล่ไรฝุ่น
7. ห้องนอนควรมีข้าวของเครื่องใช้ เครื่องตกแต่งน้อยชิ้น เพื่อสะดวกแก่การทำความสะอาด
พอกันที!! อาการกรนอาการกรน แม้จะเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรงต่อสุขภาพเท่าไรนัก แต่ก็เป็นพฤติกรรมอันดับหนึ่งในการทำลายความสุขในการนอนของคนที่อยู่ร่วมเรียงเคียงหมอนกับคุณ คงไม่มีใครอยากฟังเสียงกรน คร๊อกๆ แล้วนอนอย่างมีความสุขกันหรอก
สาเหตุของการกรนนั้น มีหลายสาเหตุใหญ่ๆ ด้วยกัน ดังนี้ - เกิดจากจมูกตัน เนื่องจากอาการคัดจมูก ทำให้หายใจไม่ออก - เกิดจากการแพ้ แพ้อากาศ แพ้ขนสัตว์ หรือแพ้ไรฝุ่น- เกิดจากการหลับในท่านอนหงาย- เกิดจากการดื่มแอลกอฮอลล์มากเกินไป- เกิดจากการทำงานหนักและเหนื่อยมาก- เกิดจากการที่เรามีน้ำหนักตัวมากจนเกินไป
สำหรับการแก้ไขอาการกรนนั้น เราจำเป็นต้องรู้ถึงสาเหตุก่อนว่า อาการกรนเกิดมาจากอะไร เมื่อทราบแล้วก็แก้ไขตามสาเหตุ อาทิ
- ถ้าคุณแพ้อากาศ ก็หาเครื่องกรองอากาศมาติดตั้ง ถ้าคุณแพ้สัตว์เลี้ยงก็ย้ายไปนอกบ้าน- ถ้านอนหงายแล้วกรน ก็หาหมอนข้างสักอันมากอด แล้วเอาอีกอันดันหลังคุณไว้- ถ้าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ ก็งดดื่มซะ - ถ้ารู้สึกคัดจมูก หรือหายใจติดขัด ก็ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหายาทาหรือสูดดมที่เหมาะสม
เรื่องของการนอนละเมอเคยสะดุ้งตื่นกลางดึก พูดเป็นเรื่องเป็นราวในขณะที่นอนหลับ หรือเดินออกมานอกบ้านโดยที่ตื่นเช้ามาก็ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปไหม อาการแบบนี้เรียกกันว่า ‘ละเมอ’ ละเมอ เกิดมาจาก 2 สาเหตุใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ
1. สิ่งกระตุ้นจากภายนอก เช่น หนังเขย่าขวัญ ภาพน่ากลัว หรือกิจกรรมในตอนกลางวันอันชวนตื่นเต้น ทำให้ฝังใจ แม้ยามหลับก็ยังนึกถึงอยู่
2. สิ่งกระตุ้นจากภายใน ความเครียด ความเหนื่อยล้า การปรับเปลี่ยนเวลานอน กรรมพันธุ์ เช่น การทำงานทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ได้พักผ่อน การคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ก่อนนอน
การละเมอในตอนดึก จะส่งผลทำให้ ในวันรุ่งขึ้นคุณจะทำงานได้ไม่ดี ไม่สดชื่นหลังจากตื่นนอน คุยกับเพื่อนก็ไม่สนุก หลับในที่ทำงาน เอาง่ายๆ คือประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ของคุณจะลดลง ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข
สมาคมแพทย์ประสาทวิทยาของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยผลการศึกษาว่า ได้มีผู้เกิดอาการละเมอเดินระหว่างการนอนมากขึ้น และมีผู้ละเมอเดินแล้วเกิดอุบัติเหตุมากถึง 32% และที่รุนแรงถึงกับได้รับบาดเจ็บเลือดตกยางออกมี 19%
สำหรับวิธีแก้ไขนั้น ควรจัดที่จัดทางในห้องนอนให้ดี เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการละเมอ ทำใจให้สงบ นั่งสมาธิก่อนนอน ทำจิตใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ และตรงเวลา
ไม่ควรทานยานอนหลับ แต่หากปฏิบัติตามนี้แล้วยังคงมีอาการละเมอที่หนักยิ่งๆ ขึ้นไปอยู่ ก็ควรที่จะเข้าไปปรึกษาแพทย์
เพื่อรักษา